TKP HEADLINE

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อำเภอบ้านหลวง แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อำเภอบ้านหลวง แสดงบทความทั้งหมด

พระธาตุเมล็ดข้าว

พระธาตุเมล็ดข้าว
ประวัติความเป็นมา
มีตำนานเล่าสืบกันมาว่า ในสมัยก่อนเจ้าผู้ครองนครเชียงราย ต้องการเชื่อมความสัมพันธ์ไมตรีกับนครน่าน ดังนั้น เจ้าผู้ครองนครเชียงราย จึงได้ถวายช้างเผือกแก่เจ้าผู้ครองนครน่าน โดยให้เจ้าครองนครน่านเสด็จไปรับช้างเผือกที่นครเชียงราย หลังจากเสด็จถึงนครเชียงงราย และได้รับถวายช้างเผือกแล้ว เสด็จกลับนครน่าน การเดินทางกลับนครน่าน เจ้าผู้ครองน่านและคณะข้าราชบริพาร ได้เดินทางเข้าเขตตำบลสวด และได้พักแรมในบริเวณที่แห่งหนึ่ง พร้อมได้ปรึกษาหารือกับคณะข้าราชบริพาร เพื่อทำพิธีสมโภชช้างเผือกที่ได้รับมอบจากเจ้าผู้ครองนครเชียงราย ในพิธีสมโภช ได้มีการนิมนต์พระสงฆ์มารับบิณฑบาตและเจริญพระพุทธมนต์ราษฎรที่มาร่วมพิธีสมโภชช้างเผือกครั้งนี้ ได้นำข้าวปลาอาหารเครื่องไทยทาน ต่าง ๆ มาถวายแด่พระสงฆ์เป็นจำนวนมาก จนพอกพูนล้นบาตรของพระสงฆ์ ซึ่งภาษาพื้นเมืองเหนือ เรียกว่า “สวด” ปัจจุบัน คือ สถานที่ตั้งอำเภอบ้านหลวง จังหวัดน่าน ข้าวที่พูนล้นบาตรออกมา ได้นำมาปั้นเป็นรูปเจดีย์ ต่อมาชาวบ้าน ที่ศรัทธาได้ช่วยกันเอาอิฐก่อหุ้มโดยรอบ จนกลายเป็นองค์เจดีย์ขึ้นมา ได้เคยมีผู้เห็นแสงสว่างไสวออกมาจากพระธาตุในเวลากลางคืนกาลเวลาต่อมาพระธาตุได้ชำรุดทรุดโทรมลงคณะศรัทธาจึงร่วมแรงร่วมใจกันบูรณปฏิสังขรณ์ เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2524 จนแล้วเสร็จ ทุกปีจะมีการทำบุญนมัสการพระธาตุเมล็ดข้าวในวันสงกรานต์ เพื่อความเป็นสิริมงคลความยึดมั่นศรัทธาของชาวอำเภอบ้านหลวง ตลอดมาจนถึงทุกวันนี้ ศึกษาเพิ่มเติม

พระธาตุกู่เขาเขียว

ประเภทแหล่งเรียนรู้
แหล่งเรียนรู้ด้านโบราณสถาน โบราณวัตถุ
ประวัติข้อมูล
พระธาตุกู่เขาเขียว
ตั้งอยู่ : ณ พุทธสถานพระธาตุกู่เขาเขียว หมู่ที่ ๑ บ้านป่าคาหลวง ต.ป่าคาหลวง อ.บ้านหลวง จ.น่าน
ประวัติพระธาตุกู่เขาเขียว :
ในสมัยโยนกกรุงเชียงแสน มีเจ้าเมืองผู้ปกครองนคร เชียงแสนองค์หนึ่งได้เดินทางจากไทลื้อ ที่มาจากเชียงแสน (พญาภูเข็ง) เดินทางผ่านมายังเมืองน่านมาถึงบ้านพี้ (ปัจจุบันคือหมู่บ้านพี้ ) บ้านพี้แต่เดิมเรียกว่าบ้านโกสัมปี เมืองน่านมีชื่อเรียกว่าเมืองนาน เจ้าเมืองเชียงแสนมีภรรยา ๒ คน ภรรยาองค์ใหญ่ชื่อว่านางบัวเขียวภรรยาองค์ที่๒ ชื่อว่านางบัวน้อย ภรรยาทั้งสองคนได้เกิดทะเลาะกัน อยากขึ้นเป็นภรรยาเอก เจ้าเมืองจึงคิดอุบายขึ้นให้ภรรยาทั้ง ๒ คนสร้างพระธาตุขึ้นคนละ ๑ องค์โดยให้นางบัวเขียวสร้างพระธาตุขึ้นที่ดอยตั้งอยู่บนแม่น้ำพี้ ที่ตรงนั้นเป็นภูเขาเขียวชอุ่ม ไม่แห้งแล้ง มีต้นไม้ขึ้นเขียวทั้งลูก แต่ภูเขาที่ห้อมล้อมอยู่แห้งแล้งมาก ส่วนนางบัวน้อยภรรยาเล็ก ให้ไปสร้างพระธาตุที่เขาน้อย (ปัจจุบันคือพระธาตุดอยเขาน้อย ตำบลดู่ใต้ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน) นางบัวเขียวและนางบัวน้อยได้พยายามสร้างพระธาตุของตนเองให้เสร็จ นางบัวน้อยสร้างพระธาตุเสร็จก่อนนางบัวเขียว นางบัวเขียวไม่สามารถสร้างพระธาตุได้ทันเสร็จ เพราะนางบัวน้อย ได้ใช้เล่ห์เหลี่ยมโยใช้สัตว์เป็นพาหนะในการขนส่ง อุปกรณ์ต่างๆ ช้าง ม้า วัว ควาย ทำให้นางบัวน้อยซึ่งเป็นภรรยาเล็กเป็นผู้ชนะ ส่วนนางบัวเขียวภรรยาใหญ่เป็นผู้แพ้ เพราะสร้างยอดพระธาตุไม่เสร็จ และไม่ได้ใส่ยอดพระธาตุเขาเขียว นางบัวน้อยจึงได้เป็นภรรยาเอก และเจ้าเมืองเชียงแสนได้ตั้งหมู่บ้านนี้ว่า บ้านปี้ เจ้าเมืองและภรรยาทั้งสองจึงได้เดินทางต่อและต่อมาได้ไปครองเมืองนาน (ปัจจุบันคือเมืองน่าน) พระธาตุเขาเขียว ซึ่งตั้งอยู่บนภูเขาเรียกตามผู้สร้างว่า กู่เขาเขียว ส่วนพระธาตุเขาน้อย ภรรยาองค์เล็กได้ขึ้นยอดพระธาตุก่อน เรียกว่าพระธาตุเขาน้อย พระธาตุเขาเขียวที่ยังสร้างไม่เสร็จ ชาวบ้านเรียกว่า กู่เขาเขียว ในแต่ละปีจะมีประเพณีสรงน้ำพระธาตุกู่เขาเขียวของชาวอำเภอบ้านหลวงประจำทุก ปี ใน วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ เหนือ (ตรงกับวันวิสาขบูชา ) พระธาตุกู่เขาเขียวจึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เคารพบูชา เป็นที่ศึกษาประวัติศาสตร์ของเมืองน่าน และชาวอำเภอบ้านหลวงจนถึงปัจจุบัน จากการศึกษาประวัติพระยาภูเข็งแล้ว ทำให้ทราบว่า พระธาตุกูเขาเขียวสร้างพร้อมๆกับพระธาตุเขาน้อย และพระธาตุแช่แห้ง จึงน่าจะมีอายุประมาณ ๖๐๖ ปี ไม่ใช่ สามร้อย กว่าปีตามที่เล่าสืบกันมาในปัจจุบัน ศึกษาเพิ่มเติม

ป่าสนยักษ์ – ดอย 3 เมือง”

“ยอดดอย 3 เมือง” ซึ่งเป็นสันดอยแบ่งแนวเขตของ 3 จังหวัด คือ เขตพื้นที่ อ.เชียงม่วน จ.พะเยา พื้นที่เขต อ.สอง จ.แพร่ และพื้นที่เขต อ.บ้านหลวง จ.น่าน ที่มีความสูง 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล
ซึ่งการเดินทางเข้าไปสำรวจครั้งนี้จะเริ่มต้นจากที่ทำการหน่วยต้นน้ำแม่สะลา ซึ่งเป็นจุดที่รถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อเข้าไปถึง จากนั้นจะเดินลัดเลาะตามสันเขาขึ้นไปเป็นระดับชั้นที่สูงขึ้น โดยตลอดเส้นทางเดินจะมีต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ ที่น่าสนใจคือจะมีต้นสนขนาดใหญ่ยืนต้นเรียงรายกันจำนวนมาก และเมื่อเดินไปถึงจุดสูงสุดของยอดดอยที่เรียกกันว่า “ดอย 3 เมือง” หรือ “แป๋ 3 เมือง” ก็จะเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามรอบทิศทาง โดยมองเห็นทิวทัศน์ของ 3 อำเภอ 3 จังหวัดดังกล่าว
นอกจากนี้ระหว่างเส้นทางที่ขึ้นสู่ยอดดอยที่นอกจากจะมีต้นไม้ มีพืชพันธุ์หลากหลายชนิดที่สวยงามและร่มรื่นให้ชมและถ่ายภาพแล้ว ยังมีจุดที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ “ลานรักนกยูง” ที่เจ้าหน้าที่บอกว่าบริเวณดังกล่าวมักจะมีนักยูงมาผสมพันธุ์กันที่นั้นเป็นประจำอีกด้วย ศึกษาเพิ่มเติม

นายปั๋น อินหลี ตำนานนักสู้สามัญชน คงหวงแผ่นดิน

นายปั๋น อินหลี
ตำนานนักสู้สามัญชน คงหวงแผ่นดิน
ปั๋น อินหลี ชาวบ้านธรรมดาหากแต่มีหัวจิตหัวใจที่โตกว่าปกติ เป็น “ตำนานที่ยังมีลมหายใจ” ที่ควรได้รับการเชิดชูว่าเป็น “นักสู้ของสามัญชน” คงไม่ง่ายนักที่คนธรรมดาสามัญคนหนึ่งจะลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อความถูกต้อง ปกปักรักษาผืนป่า ฝ่าฟันอุปสรรค อันตราย อย่างไม่หวั่นเกรง แน่วแน่หยัดยืนในอุดมการณ์ยาวนานเกือบ 30 ปี แต่นี่คือชีวิตของ “พ่อปั๋น อินหลี” ตำนานนักสู้ของนักอนุรักษ์ป่าไม้ แรงบันดาลใจของคนรุ่นหลังอีกมากมาย ผู้ผลักดันให้เกิดการวมกลุ่มองค์กรประชาชนทั้งกลุ่มบ้านหลวงหวงป่า เครือข่ายฮักเมืองน่าน และอีกหลายกลุ่ม ผู้นำธรรมชาติที่ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายให้เป็นปูชนียะบุคคลที่ทรงคุณค่า เป็นผู้ใฝ่รู้ที่จะขวนขวายศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ ถึงวันนี้ “เสาหลัก” อย่างพ่อปั๋น ยังคงมุ่งมั่นทุ่มเทให้กับการอนุรักษ์ผืนป่ารักษาแผ่นดิน ถ่ายทอดความรู้สู่คนรุ่นใหม่อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ศึกษาเพิ่มเติม

หน่วยศีกษาการพัฒนาอนุรักษ์ต้นน้ำแม่สะลา

ประเภท
แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น
ประวัติและข้อมูลส่วนตัว
นายบรรจง ไชยยงค์(ผู้นำชุมชน)
เกิดวันที่ 30 สิงหาคม 2569
จบการศึกษาระดับ ปริญญาตรี คณะรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามตำแหง
ตำแหน่ง ผู้ใหญ่บ้าน
ประวัติความเป็นมา
หน่วยศึกษาการพัฒนาอนุรักษ์ต้นน้ำแม่สะลา เป็นแหล่งต้นน้ำธรรมชาติที่ชาวบ้านในชุมชนได้ใช้น้ำ
มาใช้ประโยชน์ในการยริโภคในชุมชน ทุกหมู่บ้านสมัยตั้งแต่ปู่ ย่า ตา ยาย มาจนถึงปัจจุบัน ศึกษาเพิ่มเติม

นายบรรจง ไชยยง

ประภการประกอบอาชี
ประวัติข้อมูลส่วนตัวของปราชญ์ชาวบ้าน
นายบรรจง ไชยยง (ดำรงตำแหน่ง ผู้ใหญ่บ้าน บ้านดู่)
เกิดวันที่ 30 เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2509
ที่อยู่ บ้านดู่ เลขที่ 65 หมู่ 5 ตำบลบ้านฟ้า อำเภอบ้านหลวง จังหวัดน่าน 5519
ปัจจุบันประกอบอาชีพ เกษตรกรรม
จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขา รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยนอร์ทเทิร์น จังหวัดตาก ศึกษาเพิ่มเติม

อาชีพเกษตรกรรม

กลุ่มปลูกผักปลอดสารพิษ ม.8 ทำผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับ ปลูกพืชผักสวนครัวปลอดสารพิษ ประธานกลุ่มชื่อ นายปิง สมควร สถานที่ตั้งของ ม.8 สมาชิกจำนวน 33 คน โทรศัพท์ 086-9224760 ศึกษาเพิ่มเติม

พระแก้วมรกต

ประวัติความเป็นมา
จากการเล่าสืบต่อๆกันมาของบรรพบุรุษชาว ต.สวด อ.บ้านหลวงว่า…..
ในอดีตคนเมืองสวดที่เป็นชายฉกรรจ์ ถูกเกณฑ์ให้ไปเป็นทหารในสงครามที่เมืองเชียงตุงโดยมี มีด พร้า หอก ดาบเป็นอาวุธประจำกาย สงครามในครั้งนั้น อาศัยความสามารถทางไสยศาสตร์และปฏิภาณไหวพริบในการสู้รบเพื่อชัยชนะและการรักษาชีวิตให้รอดปลอดภัย มีอยู่ครั้งหนึ่งกำลังของข้าศึกที่มีมากกว่า ได้รุกไล่ทหารชาวเมืองสวดให้ถอยร่นไปรวมตัวเป็นกระจุกอยู่หลังจอมปลวกแห่งหนึ่ง ข้าศึกพยายามครั้งแล้วครั้งเล่าในการปีนจอมปลวกมาเพื่อเผด็จศึก แต่ก็ถูกทหารชาวเมืองสวดฆ่าตายเสียหมดสิ้นเป็นที่น่าประหลาดใจนักที่ฝ่ายข้าศึกถึงแม้จะระดมยิงกระสุนปืนเข้าใส่จอมปลวกที่ทหารเมืองสวดใช้ตั้งมั่นอยู่ แต่ก็ไม่มีกระสุนนัดใดทำอันตรายต่อจอมปลวกและทหารเมืองสวดได้ เมื่อข้าศึกไม่สามารถทำอะไรกับทหารเมืองสวดได้ตลอดจนถึงการสูญเสียไพร่พลเป็นจำนวนมาก จึงถอยกำลังกลับไปในที่สุด บรรดาทหารชาวเมืองสวดและผู้นำการสู้รบจึงร่วมกันวินิจพิจารณาถึงเหตุการณ์ปาฏิหาริย์ที่นำพาทุกคนให้แคล้วคลาดจากอันตรายในครั้งนี้และสรุปต้องกันว่า ในจอมปลวกนี้ ต้องมีของดีอยู่เป็นแน่ จึงร่วมกันขุดจอมปลวกพิสูจน์ดูเพื่อให้รู้แน่ชัด ปรากฏว่า ในจอมปลวกนี้ มีพระแก้วมรกตและพระพุทธรูปที่มีลักษณะใกล้เคียงกันอีกองค์หนึ่งซึ่งทั้งสององค์มีขนาดเท่ากับฝ่ามือคือหน้าตักประมาณ 2-2.5 นิ้ว เมื่อสงครามยุติลง ทหารชาวเมืองสวดจึงอัญเชิญพระพุทธรูปทั้งสององค์มาประดิษฐานที่วัดหลวงแห่งนี้เพื่อให้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองและดลบันดาลให้ชาวเมืองสวดมีความร่มเย็นเป็นสุข และสักการะบูชาเพื่อความเป็นศิริมงคล ความศักดิ์สิทธ์ของพระแก้วบ้านหลวงเป็นที่เลื่องลือ จึงมีผู้ที่คิดจะลักขโมยหลายครั้งรวมไปถึงการใช้กลอุบายต่างๆมาหลอกล่อเพื่อนำพระแก้วออกไปจากอ.บ้านหลวงหรือมีเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ใช้เพทุบายสั่งการให้พระแก้วมรกตนี้ไปไว้ในวัดใหญ่ในตัวเมือง แต่ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดการแคล้วคลาดทุกครั้งในปีหนึ่ง เมื่อมีการลอบวางเพลิงบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ใกล้วัดจนเกิดความชุลมุนวุ่นวาย คนร้ายได้แอบลักลอบไปขโมยองคพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์แต่ด้วยอภินิหารของพระแก้วมรกตทำให้คนร้ายได้พระพุทธรูปที่มีลักษณะใกล้เคียงไป ศึกษาเพิ่มเติม

น้ำตกห้วยพริกหลวง

“น้ำตกห้วยพริกหลวง” มีต้นน้ำมาจากดอยขุนน้ำสะเนียน ที่เป็นต้นน้ำของน้ำปี้ ห้วยพริกน้อย ห้วยพริกหลวง ห้วยตึม บริเวณที่เป็นตัวน้ำตกมีความสูงของชั้นบนประมาณ 30 เมตร เป็นลักษณะหน้าผาลาดชันประมาณ 60-70 องศา ศึกษาเพิ่มเติม

พระแก้วมรกต

จากการเล่าสืบต่อๆกันมาของบรรพบุรุษชาว ต.สวด อ.บ้านหลวง กล่าวถึง พระแก้วมรกต ศึกษาเพิ่มเติม

ปั๋น อินหลี

ปั๋น อินหลี ชาวบ้านธรรมดาหากแต่มีหัวจิตหัวใจที่โตกว่าปกติ เป็น “ตำนานที่ยังมีลมหายใจ” ที่ควรได้รับการเชิดชูว่าเป็น “นักสู้ของสามัญชน” ศึกษาเพิ่มเติม

ข้อคิดเห็นจากเครือข่าย TKP

 
Copyright © 2018 ศูนย์ข้อมูลความรู้ประชาชนจังหวัดน่าน. Designed by OddThemes > Developed by mediathailand