สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้โดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถไปทรงเยี่ยมราษฎรในถิ่นทุรกันดารห่างไกล การคมนาคมทั่วทุกภาคของประเทศ ทรงพบปัญหาความยากจนและความทุกข์ยากของประชาชนด้วยพระองค์เอง โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนขาดแคลนอาหารที่จะบริโภค เป็นโรคขาดสารอาหารและมีมาตรฐานทางการศึกษาต่ำ สุขภาพร่างกายอ่อนแอเกิดการเจ็บป่วยได้ง่าย ทรงเป็นห่วงใยเยาวชนเหล่านี้ ซึ่งจะเป็นกำลังที่สำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไปในอนาคต ศึกษาเพิ่มเติม
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อำเภอบ่อเกลือ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ อำเภอบ่อเกลือ แสดงบทความทั้งหมด
โครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้โดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถไปทรงเยี่ยมราษฎรในถิ่นทุรกันดารห่างไกล การคมนาคมทั่วทุกภาคของประเทศ ทรงพบปัญหาความยากจนและความทุกข์ยากของประชาชนด้วยพระองค์เอง โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนขาดแคลนอาหารที่จะบริโภค เป็นโรคขาดสารอาหารและมีมาตรฐานทางการศึกษาต่ำ สุขภาพร่างกายอ่อนแอเกิดการเจ็บป่วยได้ง่าย ทรงเป็นห่วงใยเยาวชนเหล่านี้ ซึ่งจะเป็นกำลังที่สำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไปในอนาคต ศึกษาเพิ่มเติม
โครงการสร้างป่าสร้างรายได้
ปัจจุบันสถานการณ์ทรัพยากรป่าไม้ถูกทำลายจนลดปริมาณลงอย่างมาก ทั้งยังมีความเสื่อมโทรมลงอย่างต่อเนื่อง เป็นผลให้เมื่อเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ ก็จะส่งผลกระทบที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ดังจะเห็นได้ว่า ในฤดูฝน เมื่อเกิดฝนตกหนัก มักจะมีน้ำป่าไหลหลากลงมา และมีดินถล่มเป็นประจำ และเมื่อเข้าสู่ฤดูแล้ง มักจะเกิดการขาดแคลนน้ำในระดับรุนแรง ซึ่งส่งผลกระทบถึงการประกอบอาชีพและการดำรงชีวิตของประชาชนโดยตรง ปริมาณน้ำลดลง ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ ระบบนิเวศเสียสมดุล เหล่านี้ล้วนเป็นผลพวงที่เกี่ยวเนื่องจากการทำลายทรัพยากรป่าไม้ที่ทุกคนต้องร่วมมือกันแก้ไข
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีแนวพระราชดำริให้ดำเนินการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ที่เหลืออยู่ให้คงไว้ และฟื้นฟูส่วนที่เสื่อมโทรม ให้กลับมาสมบูรณ์ดังเดิม โดยเฉพาะพื้นที่ป่าต้นน้ำในพื้นที่อำเภอบ่อเกลือ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดแม่น้ำน่าน และลำห้วยน้อยใหญ่ และส่งเสริมให้มีการปลูกไม้ที่ก่อให้ เกิดรายได้แก่ราษฎรในพื้นที่ด้วย สำนักงานโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จึงได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ จัดทำโครงการสร้างป่า สร้างรายได้ขึ้น เพื่อสนองแนวพระราชดำริดังกล่าว โดยมีเป้าหมายที่สำคัญคือ ส่งเสริมการปลูกไม้โตเร็ว ไม้ท้องถิ่น และไม้เศรษฐกิจ บนพื้นที่ทำกินของเกษตรกรแต่ละรายบุคคล โดยเกษตรกรเป็นผู้ปลูก ดูแลรักษาไม้ที่ปลูกเอง และสามารถตัดฟันไม้มาใช้ประโยชน์ได้โดยอิสระ ทั้งนี้เพื่อให้เกษตรกรผู้ปลูก มีไม้ใช้สอยในชีวิตประจำวัน และเมื่อเหลือใช้สามารถแปรรูปจำหน่ายเป็นรายได้เสริมให้ครอบครัว โดยไม่ต้องบุกรุกตัดป่าไม้ธรรมชาติ และสามารถฟื้นฟูอนุรักษ์แหล่งต้นน้ำลำธารในพื้นที่ให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์ต่อไป ศึกษาเพิ่มเติม
สัตว์ป่าในชุมชน
สัตว์ป่ามีอยู่ในป่าลึก เช่น หมูป่า เก้ง กวาง เสือ หมี เลียงผา ลิง ค่าง ชะนี เมื่อชาวบ้านพบสัตว์เหล่านี้ก็จะจับมาเป็นอาหารแต่นานครั้งจึงจะจับได้ ส่วนใหญ่จะจับได้เฉพาะสัตว์ตัวเล็ก ๆ เช่น หนูหวาย (หนูหางยาว) ตัวตุ่น บ่าง (กระรอกบิน) นก งู อีเห็น รวมทั้งตัวอ่อนของต่อ หนอนไม้ไผ่ (รถด่วน) และแมลงอีกหลายชนิดนายสมบูรณ์เล่าว่า ในอดีตประมาณ 30 – 40 ปีที่ผ่านมา สามารถพบเห็นเก้ง กวางหมูป่า หมี ลิง ชะนี เป็นจำนวนมากในป่าใกล้หมู่บ้าน หมูป่าและลิงจะมาทำความเสียหายให้แก่ผลผลิตในไร่ ชาวบ้านต้องออกไปนอนเฝ้าไร่ บางครั้งจะเห็นเก้ง กวาง ออกมากินน้ำในลำห้วยใกล้กับหมู่บ้าน ชาวบ้านก็จะช่วยกันไล่ยิงมาเป็นอาหาร ถ้าออกไปหาอาหารในป่าหนึ่งวันก็จะได้อาหารกลับออกมา สามารถกินได้ทั้งวันและเก็บไว้กินได้อีกหลายวัน แต่ว่าในปัจจุบันออกไปหาอาหารหนึ่งวันได้อาหารกลับออกมาซึ่งกินได้เพียงมื้อเดียว หรือบางครั้งหาจนข้ามคืนก็ไม่ได้อะไรกลับออกมาเลย (สมบูรณ์ ใจปิง สัมภาษณ์, 4 ตุลาคม 2551) สะท้อนให้เห็นว่าในอดีตสัตว์ป่าในบริเวณหมู่บ้านมีจำนวนมากและหลากหลายชนิดกว่าในปัจจุบัน สาเหตุสำคัญที่ทำให้สัตว์ป่าลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว คือ การถางป่าเพื่อทำไร่และการไล่ล่าเพราะชาวบ้านมีปืนแก๊ปโดยชาวบ้านจะออกไปล่าสัตว์เป็นประจำ ศึกษาเพิ่มเติม
ของกินในป่าใหญ่
หนอนรถด่วน
นอนรถด่วน หรือ Bamboo Caterpillar เป็นหนอนของผีเสื้อกลางคืนชนิดหนึ่ง ซึ่งตัวหนอนกินเยื่อไผ่เป็นอาหาร ชาวจีนฮ่อเรียก จูซุง ชาวกะเหรี่ยงเรียกว่า คลีเคล๊ะ ส่วนคนไทยเรียกว่าหนอนรถด่วน เพราะ ตัวหนอนมีรูปร่างลักษณะคล้ายโบกี้รถไฟนั่นเอง หนอนรถด่วนเป็นหนอนผีเสื้อที่มีวงจรชีวิตที่ยาวนานถึงหนึ่งปีเต็ม เมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์ผีเสื้อจะจับคู่ผสมพันธุ์ในช่วงฤดูฝน ศึกษาเพิ่มเติม
พืชสมุนไพรในป่าชุมชนที่หาได้ในหมู่บ้านก่อก๋วงใน
พืชสมุนไพรในป่าชุมชนที่หาได้ในหมู่บ้านก่อก๋วงใน
โป่งสิริปิด - เป็นไม้ยืนต้น
- ใบคล้ายใบลิ้นจี่
- แก้ไข้ตัวร้อน แก้ไอ
- ปวดหลัง ปวดเอว
- นำปมส่วนรากมาต้มดื่ม
ก่านขาว - เป็นเถาวัลย์ ขนาด2-3 นิ้ว
- ใบเล็กคล้ายใบโพ
- ปวดหลัง ปวดเอว
- ช่วยระบบไหลเวียนโลหิต
- ต้มดื่ม
- ดองเหล้า ศึกษาเพิ่มเติม
วัฒนธรรมประเพณีของชาวบ้านก่อก๋วงใน อ.บ่อเกลือ
ประเพณีที่ชาวบ้านได้ยึดถือและปฏิบัติสืบต่อกันมา มีดังนี้
(1) ประเพณีขึ้นบ้านใหม่ ถือเป็นงานที่สำคัญ บ้านเรือนใดที่ไม่ได้จัดงานขึ้นบ้านใหม่ผู้ที่อยู่อาศัยจะเจ็บไข้ได้ป่วยอยู่เป็นประจำ ครอบครัวไม่มีความสุข เมื่อถึงวันกำที่เป็นฤกษ์ดีที่จะขึ้นบ้านใหม่ ชาวบ้านจะจัดเตรียมเหล้าอุ เหล้าต้ม (เหล้าเถื่อน) ข้าว ฆ่าหมู ฆ่าไก่ทำอาหารกินร่วมกัน ชาวบ้านทั้งหมู่บ้านจะมาอวยพรและแสดงความยินดีกับเจ้าของบ้านหลังจากที่สร้างบ้านเสร็จสิ่งแรกที่เจ้าของบ้านจะต้องนำขึ้นบ้าน คือ เตาไฟ เพราะเชื่อกันว่าเตาไฟเป็นที่สำหรับทำอาหารให้ทุกคนในบ้านได้มีอยู่มีกิน เมื่ออากาศหนาวเตาไฟก็จะให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย
(2) ประเพณีกินข้าวโพดใหม่ เป็นการเฉลิมฉลองการกินข้าวโพดที่ชาวบ้านได้ปลูกไว้ หลังจากที่ข้าวโพดอยู่ในช่วงที่สามารถเก็บเกี่ยวได้
(3) ประเพณีวันขึ้นปีใหม่ วันขึ้นปีใหม่ของชาวลัวะบ้านก่อก๋วงในไม่ได้กำหนดไว้เป็นที่แน่ชัดว่าตรงกับวันใด โดยจะทำตรงกับวันคด (วันของชาวลัวะ) หลังจากที่มีการปลูกข้าวในไร่เสร็จกันทั้งหมู่บ้าน ปกติจะอยู่ในช่วงปลายเดือนเมษายนหรือต้นเดือนพฤษภาคม โดยหมอต่อม (แม่กำฮีต) จะเป็นผู้กำหนดวันที่เป็นฤกษ์ดี แล้วนัดแนะชาวบ้านให้จัดเตรียมเหล้า อาหารในวันขึ้นปีใหม่เด็ก ๆ จะมารดน้ำขอพรจากคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้าน (เหมือนกับวันขึ้นปีใหม่ไทยหรือสงกรานต์) ในวันนี้จะมีการฆ่าหมู ไก่ วัว ควาย แล้วแบ่งปันกันทั้งหมู่บ้าน กลุ่มวัยรุ่นและชาวบ้านจะร่วมกันร้องเพลงอย่างสนุกสนานทั้งวันทั้งคืน ศึกษาเพิ่มเติม
น้ำตกบ้านก่อก๋วงใน
เนื่องจากสภาพพื้นที่ของหมู่บ้านตั้งอยู่บนภูเขาสูง มีทรัพยากรป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์จึงเกิดแหล่งน้ำหลายสายที่มีอยู่ตามป่า เป็นที่หล่อเลี้ยงชีวิตของคนในหมู่บ้าน ตลอดจนพืชพันธุ์ธัญญาหารและสัตว์ป่า ใกล้กับหมู่บ้านมีลำห้วยหลายสายไหลผ่าน เช่น ห้วยน้ำมางห้วยผาเหนือ ห้วยกำกอม ห้วยน้ำยอ ห้วยภูลังกา ห้วยนายอ ห้วยกระแต ห้วยก่อก๋วงในหมู่บ้านมีสภาพเป็นป่าเขา เป็นป่าต้นน้ำ ทำให้มีน้ำซับไหลซึมออกมาอยู่หลายแห่ง(ตาน้ำ) เวลาเดินไปในลำห้วยจะเห็นร่องน้ำไหลลงมายังลำห้วยตลอดสาย โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนจะมีปริมาณน้ำมาก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของน้ำและป่ารอบบริเวณหมู่บ้าน
น้ำตกบ้านก่อก๋วงในเป็นน้ำตกที่ไหลจากภูเขาสูงที่มาจากดอยภูคาซึ่งน้ำตกจะมีน้ำไหลตลอดทั้งปี จะมีมากในช่วงฤดูฝน ส้นทางน้ำตกจะไหลผ่านทางเข้าก่อนเข้าหมู่บ้านก่อก๋วงในมีธรรมชาติที่สวยงาม มีพืชพรรณจำพวกเฟิร์นและต้นไม้ที่เกิดขึ้นในเฉพาะถิ่น น้ำตกมีความใสสะอาดและสามารถนำมาใช้ดื่มบริโภคได้ ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำต่างๆ ศึกษาเพิ่มเติม
อุทยานแห่งชาติดอยภูคา
อุทยานแห่งชาติดอยภูคามีพื้นที่ครอบคลุมในท้องที่ 8 อำเภอของจังหวัดน่าน ได้แก่ อำเภอปัว อำเภอท่าวังผา อำเภอทุ่งช้าง อำเภอเชียงกลาง อำเภอบ่อเกลือ อำเภอสันติสุข อำเภอเฉลิมพระเกียรติ และ อำเภอแม่จริม ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมด 1,704 ตารางกิโลเมตร หรือ 1,065,000 ไร่ จึงทำให้มีความอุดมสมบูรณ์ของสภาพป่าอันจะเห็นได้จากการพบพืชพรรณ และสัตว์ป่าหายากหลากหลายชนิด และนับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดน่าน โดยมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่น่าสนใจคือ ดอกชมพูภูคาซึ่งเป็นพันธ์ไม้หายากและมีที่แห่งนี้ที่เดียวในประเทศไทย ต้นเต่าร้างยักษ์ ป่าดึกดำบรรพ์ น้ำตกภูฟ้า พิชิตยอดดอยภูแว ชมถ้ำยอดวิมาน และถ้ำผาฆ้อง
ความเป็นมา :
ด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดน่าน (นายสมชาย โลหะโซติ ) ได้มีหนังสือ ที่ 13/2526 ลงวันที่ 24 กันยายน 2526 เรียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายณรงค์ วงศ์วรรณ) ว่าได้รับการร้องขอจากราษฎร ขอให้กำหนดป่าดอยภูคา อำเภอปัว จังหวัดน่าน เป็นอุทยานแห่งชาติ เนื่องจากยอดดอยภูคาเป็นยอดเขาสูงสุด ของจังหวัดน่านอันเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัด โดยมีความสูงถึง 1,980 เมตร จากระดับน้ำทะเล เป็นป่าต้นน้ำลำธารที่เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำน่าน มีทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากมีการเล่าขานกันมาแต่ครั้งโบราณและเชื่อมั่นว่าเมืองเก่าของบรรพบุรุษคนเมืองน่านอยู่ในเขตบนเทือกเขาดอยภูคาต่อมากองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ได้มีหนังสือ ที่ กห 0483 (สน)/95 ลงวันที่ 27 มกราคม 2527 แจ้งว่าได้พบสภาพพื้นที่ป่าบริเวณบ้านปู จังหวัดน่าน พิกัดเส้นตรง 18-35 และเส้นราบ 07-70 ตามแผนที่มาตราส่วน 1:50,000 มีความอุดมสมบูรณ์และธรรมชาติที่สวยงาม และพื้นที่บริเวณพิกัด คิว เอ 2686 มีน้ำตกที่มีความสวยงามขนาดใหญ่สมควรที่จะได้มีการออกประกาศพระราชกฤษฎีกากำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติ ศึกษาเพิ่มเติม
อาชีพท้องถิ่นชาวก่อก๋วงใน อ.บ่อเกลือ
ชาวบ้านก่อก๋วงในประกอบอาชีพการทำข้าวไร่เป็นอาชีพหลัก และจะออกไปทำงาน
รับจ้างในตัวเมืองและต่างจังหวัดในช่วงที่ว่างเว้นจากการทำไร่ พอถึงช่วงที่ต้องทำไร่หรือเก็บเกี่ยว
ข้าวจึงค่อยกลับมาทำงานที่ไร่
1) การทำไร่ข้าว วิถีชีวิตของชาวบ้านจะเป็นวิถีชีวิตที่อยู่ในไร่ข้าวเกือบตลอดทั้งปี ทุกครอบครัวจะทำข้าวไร่เป็นอาชีพหลัก ข้าวที่ได้จะเก็บไว้บริโภคภายในครอบครัวเท่านั้นไม่มีการขาย โดยก่อนที่จะถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวประมาณ 2 – 3 เดือน ชาวบ้านจะประสบปัญหาข้าวไม่พอกิน จะต้องชื้อข้าวกินเกือบทุกครอบครัว เพราะในปัจจุบันจะมีสัตว์และแมลงมากัดกินต้นข้าวเป็นจำนวนมาก เช่น หนู นก แมลง หนอนกินราก ชาวบ้านไม่ใช้สารเคมีในการกำจัดสัตว์และแมลงเหล่านี้ เนื่องจากมีคนในหมู่บ้านไปทำงานรับจ้างอยู่ต่างจังหวัด ได้ใช้สารเคมีเพื่อกำจัดแมลงที่มากัดกินต้นข้าวและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทำให้ชาวบ้านเกิดความหวาดกลัวและไม่กล้าใช้สารเคมีแม้แต่ชนิดเดียว แต่จะใช้เกลือละลายน้ำฉีดพ่นกำจัดวัชพืช ทำโตลและต่ำ(กับดักหนู)สำหรับฆ่าหนู ข้าวที่ชาวบ้านปลูกจึงเป็นข้าวที่ปลอดจากสารพิษสมาชิกในครอบครัวทุกคนจะช่วยกันทำไร่ ในหมู่บ้านจะไม่มีการรับจ้างทำไร่แต่จะเป็นการช่วยกันทั้งหมู่บ้านในลักษณะของการลงแขก ชาวบ้านแต่ละครอบครัวจะออกไปทำงานในไร่ตั้งแต่เช้าตรู่และกลับเข้าบ้านประมาณ 16.00 น. – 17.00 น. ข้าวที่ได้ในแต่ละปีเฉลี่ย 60 – 80 ถุง (ถุงละ 50กิโลกรัม) ถ้าได้ข้าวมากกว่า 80 ถุงถือว่าได้ข้าวมาก ถ้าได้ต่ำกว่า 60 ถุงถือว่าได้ข้าวน้อย ขณะที่ปลูกไร่ข้าวชาวบ้านจะปลูกซิลี (ข้าวโพด) แตงกวา ผักกาด เผือก มัน และพืชพันธุ์ต่าง ๆ ระหว่างต้นข้าวไปด้ว เอาไว้สำหรับบริโภคในครอบครัวและเอาไว้เป็นอาหารสัตว์โดยเฉพาะอย่างยิ่งผักกาดและแตงกวาที่ถือว่าเป็นอาหารหลักของชาวบ้าน้จะมีวิธีคัดเลือกและเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์เพื่อนำไปเพาะปลูกในไร่ คือจะเลือกเอาผลที่สมบูรณ์ที่สุด ขนาดใหญ่ สีสวย แก่จัด การทำให้เมล็ดพันธุ์แห้งมีอยู่ 2 วิธี
วิธีแรกรอให้ผลเหี่ยวแห้งเหลือแต่เมล็ด ได้แก่ ข้าวโพด
วิธีที่สองการตัดเอาเมล็ดไปตากแดดให้แห้ง ได้แก่ เมล็ดผักกาด แตงกวา จากนั้นนำไปใส่ในกระบอกไม้ไผ่ แล้วนำไปวางไว้บนหิ้งบนเตาไฟที่อยู่สูงจากเตาไฟประมาณ 2 เมตร ซึ่งอาศัยความร้อนและควันไฟรักษาเมล็ดพันธุ์ไม่ให้ขึ้นราและป้องกันไม่ให้มอด มด หนู แมลงมากัดกินเมล็ดพันธุ์
2) การเลี้ยงสัตว์ สัตว์ที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ ได้แก่
(1) ไก่ ชาวบ้านจะเลี้ยงกันทุกหลังคาเรือน เพราะจำเป็นต้องใช้ไก่ในการเลี้ยงผีในการประกอบพิธีกรรม ชาวบ้านจะไม่มีการซื้อขายแต่จะเป็นการแลกเปลี่ยนกันแทน เช่นไก่ตัวเล็ก 2 ตัวต่อไก่ตัวโต 1 ตัว ในแต่ละครอบครัวจะมีไก่ตัวผู้ 4 - 5 ตัว ที่เหลือจะเป็นไก่ตัวเมียทั้งหมดเนื่องจากจะให้ไก่แพร่ขยายพันธุ์ ชาวบ้านจะสร้างเล้าไก่ไว้ที่ข้างบ้านและปล่อยให้ไก่หากินเองตามธรรมชาติ สำหรับไก่ที่กำลังฟักไข่หรือเลี้ยงลูกอ่อนชาวบ้านจะเลี้ยงไว้ในหับไก่(ที่ขังไก่) แล้วห้อยไว้ใต้ถุนบ้าน ศึกษาเพิ่มเติม
นายไพโรจน์ จอมหล้า
ประวัติข้อมูลส่วนตัว : นายไพโรจน์ จอมหล้า
เกิดวันที่ 28 ตุลาคม 2518
บิดาชื่อ : นายนำ จอมหล้า
มารดาชื่อ : นางหลง จอมหล้า
นายไพโรจน์ จอมหล้า เป็นชาวบ้านก่อก๋วงใน เป็นผู้นำชุมชน ตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านและเป็นปราชญ์ชาวบ้านทางความเชื่อของหมู่บ้าน ความรู้ชุมชนทางด้านข้อมูล บริบทชุมชน ทรัพยากรทางธรรมชาติ โดยเป็นผู้ให้ข้อมูลด้านต่างๆและเป้นผู้นำทางวัฒนธรรม จารีต ที่สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบันศึกษาเพิ่มเติม
นายแก่น จอมหล้า
ประวัติข้อมูลส่วนตัว : นายแก่น จอมหล้า
เกิดวันที่ 5 มีนาคม 2482
บิดาชื่อ : นายศรี จอมหล้า
มารดาชื่อ : นางดี จอมหล้า
นายแก่น จอมหล้า เป็นชาวบ้านก่อก๋วงใน เป็นปราชญ์ชาวบ้านทางความเชื่อของหมู่บ้าน ทางด้านนับถือผี และเป็นผู้นำทางความเชื่อทางธรรมชาติ เช่น การเลี้ยงเจ้าที่ การกินดอกแดง การสู่ขวัญ ศึกษาเพิ่มเติม
บ่อเกลือสินเธาว์โบราณ
ประวัติความเป็นมา : อำเภอบ่อเกลือเดิมเรียกว่า เมืองบ่อ ซึ่งคงจะหมายถึงบ่อน้ำเกลือสินเธาว์ที่มีอยู่ในพื้นที่ซึ่งเดิมมีอยู่จำนวน 9 บ่อ เมืองบ่อเดิมทีเป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีความสำคัญมาตั้งแต่ในอดีตกาล ปรากฏหลักฐานทางประวัติศาสตร์ตามพงศาวดารเมืองน่านซึ่งพระเจ้าสุริยพงษผริตเดช ได้แต่งรวบรวมขึ้นไว้ มีข้อความกล่าวถึงแหล่งผลิตเกลือที่สำคัญที่เป็นสาเหตุให้พระเจ้าติโลกราชแห่งเมืองเชียงใหม่ยกทัพมายึดเมืองน่าน เมื่อปี พ.ศ. 1993 ว่า
"เดิมทีเขตอำเภอบ่อเกลือเป็นป่าดงพงไพร ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ มีหนองน้ำ(โป่ง) ซึ่งพวกสัตว์ต่าง ๆ ชอบมากินน้ำในหนองน้ำแห่งนี้เป็นประจำ และยังมีนายพรานผู้หนึ่งมาล่าสัตว์ และเห็นพวกเหล่าสัตว์ทั้งหลายมักจะกินน้ำที่นี่เป็นประจำ เมื่อลองชิมดูจึงรู้ว่ามีรสเค็ม ข่าวได้ล่วงรู้ไปถึงเจ้าหลวงภูคาและเจ้าหลวงบ่อ จึงได้มาดูบ่อน้ำเกลือ และต่างก็ต้องการครอบครอง จึงคิดหาวิธีการโดยทั้งสองพระองค์ขึ้นไปอยู่ที่ยอดดอยภูจั๋น เพื่อแข่งขันกันพุ่งสะเน้า (หอก) แสดงการครอบครองบ่อน้ำเกลือ เจ้าหลวงภูคาพุ่งหอกไปตกทางตะวันตกของลำน้ำมาง ตรงที่ตั้งหอนอกในปัจจุบัน เจ้าหลวงบ่อพุ่งหอกไปตกทางตะวันออกของลำน้ำมาง ตรงที่ตั้งหอเจ้าพ่อบ่อหลวงในปัจจุบัน ผู้คนที่พากันมาดูการแข่งขันพุ่งหอก ได้นำเอาก้อนหินมาก่อไว้เป็นที่สังเกต แล้วตั้งเป็นโรงหอทำพิธีระลึกตอบแทนเจ้าหลวงทั้งสององค์ทุกปี ภายหลังทั้งสองพระองค์คิดกันว่า จะนำคนที่ไหนมาอยู่ เมื่อปรึกษากันแล้ว เจ้าหลวงภูคาจึงไปทูลขอประชาชนที่อยู่เมืองเชียงแสนจากเจ้าเมืองเชียงรายมาหักร้างถางพงทำเกลืออยู่ที่นี่ ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของชาวบ่อหลวงในปัจจุบันนั่นเอง ดังนั้นชุมชนบริเวณนี้จึงได้เกิดขึ้นและดำรงอยู่มาจนถึงปัจจุบันนี้ (ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่า เดิมทีนั้นบรรพบุรุษอยู่ที่ประเทศมองโกเลียและประเทศจีน หนี้ลี้ภัยมาทางแม่น้ำเหลืองเข้าสู่ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ทางประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวไม่อนุญาตให้อาศัยอยู่ได้ จึงพากันข้ามแม่น้ำโขงมาอาศัยอยู่ที่เมืองเชียงแสน)" ศึกษาเพิ่มเติม
นายสิงห์คำ คันทะมูล
นา
ประเภทของปราชญ์ชาวบ้าน : ด้านพิธีกรรมทางศาสนา พิธีกรรมพื้นบ้าน
การประกอบอาชีพ : ทำไร่
ประวัติข้อมูลส่วนตัว
นายสิงห์คำ คันทะมูล
ที่อยู่ : 117 หมู่ 5 ตำบลบ่อเกลือใต้ อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน
สถานภาพ : สมรส
ภูมิปัญญาด้าน : ด้านพิธีกรรมทางศาสนา พิธีกรรมพื้นบ้าน ศึกษาเพิ่มเติม
ยสิงห์คำ คันทะมูล
ประเภทของปราชญ์ชาวบ้าน : ด้านพิธีกรรมทางศาสนา พิธีกรรมพื้นบ้าน
การประกอบอาชีพ : ทำไร่
ประวัติข้อมูลส่วนตัว
นายสิงห์คำ คันทะมูล
ที่อยู่ : 117 หมู่ 5 ตำบลบ่อเกลือใต้ อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน
สถานภาพ : สมรส
ภูมิปัญญาด้าน : ด้านพิธีกรรมทางศาสนา พิธีกรรมพื้นบ้าน ศึกษาเพิ่มเติม
น้ำตกสะปัน
น้ำตกสะปัน
น้ำตกสะปัน ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติขุนน่าน ในตำบลดงพญา อำเภอบ่อเกลือ มีลักษณะเป็นน้ำตกที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก มี 3 ชั้น สูงประมาณ 3-6 เมตร เป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี สายน้ำจะไหลเย็น อากาศเย็นสบาย ป่าไม้รอบ ๆ สวยงามเขียวขจี น่ามาเที่ยวพักผ่อน การเดินทางมายังน้ำตกสะปัน เมื่อมาถึงหมู่บ้านสะปัน ก่อนถึงโรงเรียนบ้านสะปัน จะมีทางแยกอยู่ทางขวามือ ขับรถเข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร แล้วเดินเข้าไปยังตัวน้ำตกอีกราว ๆ 100 เมตร ศึกษาเพิ่มเติม
โครงการสร้างป่าสร้างรายได้ตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีแนวพระราชดำริให้ดำเนินการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ที่เหลืออยู่ให้คงไว้ และฟื้นฟูส่วนที่เสื่อมโทรม ให้กลับมาสมบูรณ์ดังเดิม โดยเฉพาะพื้นที่ป่าต้นน้ำในพื้นที่อำเภอบ่อเกลือ ศึกษาเพิ่มเติม
มะก่อ
มะก่อ ป็นไม้ในวงศ์ก่อ ชื่อท้องถิ่น มะก่อ ขึ้นตามป่าดิบเขา ป่าไม้ก่อ เป็นป่าที่พบทั่วไปบนภูเขาทางภาคเหนือ ศึกษาเพิ่มเติม
บ่อน้ำเกลือสินเธาว์
บ่อน้ำเกลือสินเธาว์ ดิมทีบ่อเกลือมีชื่อว่า “เมืองบ่อ” ซึ่งก็น่าจะหมายถึงบ่อน้ำเกลือสินเธาว์นี่แหละ มีเรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า ในอดีตกาลเมืองบ่อแห่งนี้เป็นชุมชนขนาดใหญ่และภายในพื้นที่รอบๆ นี้เคยมีบ่อน้ำเกลือสินเธาว์มากถึง 9 บ่อ ศึกษาเพิ่มเติม
น้ำตกบ้านก่อก๋วงใน
น้ำตกบ้านก่อก๋วงใน เป็นน้ำตกที่ไหลจากภูเขาสูงที่มาจากดอยภูคาซึ่งน้ำตกจะมีน้ำไหลตลอดทั้งปี ศึกษาเพิ่มเติม
สมัครสมาชิก:
บทความ
(
Atom
)