ชาวบ้านก่อก๋วงในประกอบอาชีพการทำข้าวไร่เป็นอาชีพหลัก และจะออกไปทำงาน
รับจ้างในตัวเมืองและต่างจังหวัดในช่วงที่ว่างเว้นจากการทำไร่ พอถึงช่วงที่ต้องทำไร่หรือเก็บเกี่ยว
ข้าวจึงค่อยกลับมาทำงานที่ไร่
1) การทำไร่ข้าว วิถีชีวิตของชาวบ้านจะเป็นวิถีชีวิตที่อยู่ในไร่ข้าวเกือบตลอดทั้งปี ทุกครอบครัวจะทำข้าวไร่เป็นอาชีพหลัก ข้าวที่ได้จะเก็บไว้บริโภคภายในครอบครัวเท่านั้นไม่มีการขาย โดยก่อนที่จะถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวประมาณ 2 – 3 เดือน ชาวบ้านจะประสบปัญหาข้าวไม่พอกิน จะต้องชื้อข้าวกินเกือบทุกครอบครัว เพราะในปัจจุบันจะมีสัตว์และแมลงมากัดกินต้นข้าวเป็นจำนวนมาก เช่น หนู นก แมลง หนอนกินราก ชาวบ้านไม่ใช้สารเคมีในการกำจัดสัตว์และแมลงเหล่านี้ เนื่องจากมีคนในหมู่บ้านไปทำงานรับจ้างอยู่ต่างจังหวัด ได้ใช้สารเคมีเพื่อกำจัดแมลงที่มากัดกินต้นข้าวและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทำให้ชาวบ้านเกิดความหวาดกลัวและไม่กล้าใช้สารเคมีแม้แต่ชนิดเดียว แต่จะใช้เกลือละลายน้ำฉีดพ่นกำจัดวัชพืช ทำโตลและต่ำ(กับดักหนู)สำหรับฆ่าหนู ข้าวที่ชาวบ้านปลูกจึงเป็นข้าวที่ปลอดจากสารพิษสมาชิกในครอบครัวทุกคนจะช่วยกันทำไร่ ในหมู่บ้านจะไม่มีการรับจ้างทำไร่แต่จะเป็นการช่วยกันทั้งหมู่บ้านในลักษณะของการลงแขก ชาวบ้านแต่ละครอบครัวจะออกไปทำงานในไร่ตั้งแต่เช้าตรู่และกลับเข้าบ้านประมาณ 16.00 น. – 17.00 น. ข้าวที่ได้ในแต่ละปีเฉลี่ย 60 – 80 ถุง (ถุงละ 50กิโลกรัม) ถ้าได้ข้าวมากกว่า 80 ถุงถือว่าได้ข้าวมาก ถ้าได้ต่ำกว่า 60 ถุงถือว่าได้ข้าวน้อย ขณะที่ปลูกไร่ข้าวชาวบ้านจะปลูกซิลี (ข้าวโพด) แตงกวา ผักกาด เผือก มัน และพืชพันธุ์ต่าง ๆ ระหว่างต้นข้าวไปด้ว เอาไว้สำหรับบริโภคในครอบครัวและเอาไว้เป็นอาหารสัตว์โดยเฉพาะอย่างยิ่งผักกาดและแตงกวาที่ถือว่าเป็นอาหารหลักของชาวบ้าน้จะมีวิธีคัดเลือกและเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์เพื่อนำไปเพาะปลูกในไร่ คือจะเลือกเอาผลที่สมบูรณ์ที่สุด ขนาดใหญ่ สีสวย แก่จัด การทำให้เมล็ดพันธุ์แห้งมีอยู่ 2 วิธี
วิธีแรกรอให้ผลเหี่ยวแห้งเหลือแต่เมล็ด ได้แก่ ข้าวโพด
วิธีที่สองการตัดเอาเมล็ดไปตากแดดให้แห้ง ได้แก่ เมล็ดผักกาด แตงกวา จากนั้นนำไปใส่ในกระบอกไม้ไผ่ แล้วนำไปวางไว้บนหิ้งบนเตาไฟที่อยู่สูงจากเตาไฟประมาณ 2 เมตร ซึ่งอาศัยความร้อนและควันไฟรักษาเมล็ดพันธุ์ไม่ให้ขึ้นราและป้องกันไม่ให้มอด มด หนู แมลงมากัดกินเมล็ดพันธุ์
2) การเลี้ยงสัตว์ สัตว์ที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ ได้แก่
(1) ไก่ ชาวบ้านจะเลี้ยงกันทุกหลังคาเรือน เพราะจำเป็นต้องใช้ไก่ในการเลี้ยงผีในการประกอบพิธีกรรม ชาวบ้านจะไม่มีการซื้อขายแต่จะเป็นการแลกเปลี่ยนกันแทน เช่นไก่ตัวเล็ก 2 ตัวต่อไก่ตัวโต 1 ตัว ในแต่ละครอบครัวจะมีไก่ตัวผู้ 4 - 5 ตัว ที่เหลือจะเป็นไก่ตัวเมียทั้งหมดเนื่องจากจะให้ไก่แพร่ขยายพันธุ์ ชาวบ้านจะสร้างเล้าไก่ไว้ที่ข้างบ้านและปล่อยให้ไก่หากินเองตามธรรมชาติ สำหรับไก่ที่กำลังฟักไข่หรือเลี้ยงลูกอ่อนชาวบ้านจะเลี้ยงไว้ในหับไก่(ที่ขังไก่) แล้วห้อยไว้ใต้ถุนบ้าน ศึกษาเพิ่มเติม
แสดงความคิดเห็น