TKP HEADLINE

ประเพณีขึ้นพระธาตุภูพวนและประเพณีกำฟ้า

งานสืบสานวัฒนธรรมประเพณีกำฟ้า และงานแสดงอัตลักษณ์ของชาติพันธ์ุไทยพวน
ชาวไทยพรวนอพยพมาจากเมืองพวน แขวงเมืองเชียงขวาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมื่อประมาณ พ.ศ. 2360-2380 ประวัติประเพณีกำฟ้า ตามประวัติศาสตร์ที่เล่าต่อกันมาว่า ครั้งหนึ่งพระเจ้าแผ่นดินสยามมีโอกาสให้เจ้าชมพูแห่งเมืองพวนยกทัพไปตีร่วมกับเจ้าเวียงจันทน์ ตีได้สำเร็จ ต่อมาเจ้าชมพูแข็งเมือง ไม่ยอมส่งส่วยให้เวียงจันทน์และหลวงพระบางเหมือนเช่นเคย เจ้านนท์แห่งเวียงจันทน์โกรธมาก จึงส่งให้แม่ทัพชื่อเขียวไปปราบเมืองพวน เจ้าชมพูแพ้ถูกจับได้ และถูกสั่งประหารชีวิตด้วยหอก ขณะที่ทำการประหารนั้น เกิดเหตุอัศจรรย์ ฟ้าได้ผ่าลงมาถูกหอกหักสะบั้น เจ้านนท์เห็นว่าเจ้าชมพูเป็นผู้ที่มีบุญญาบารมี จึงสั่งให้ปล่อยกลับไปครองเมืองพวนดังเดิม ด้วยเหตุนี้ชาวไทยพวนจึงเห็นความสำคัญของฟ้า จึงเกิดประเพณี “กำฟ้า” ขึ้นตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
"กำฟ้า" หมายถึง การนับถือสักการบูชาฟ้า การแสดงกตเวทิตาต่อฟ้าที่ท่านได้คุ้มครองให้มีอายุยืนยาว ให้อยู่ดีกินดี มีฝนตกต้องตามฤดูกาล มีข้าวปลาอาหารสมบูรณ์ โดยชาวไทยพวนทุกคนจะหยุดทำงานทุกชนิด คือ หยุดทำไร่ ทำนา ทอหูก ปั่นฝ้าย ตีเหล็ก เป็นต้น แม้แต่อุปกรณ์เครื่องมือทำมาหากินก็ต้องเก็บเข้าที่ให้หมด คงเหลือแต่อุปกรณ์ในการหุงหาอาหารในแต่ละมื้อเท่านั้น ในวันกำฟ้าชาวไทยพวนจะมีกิจกรรมร่วมกัน คือ การทำบุญตักบาตรในตอนเช้า การละเล่นในตอนกลางคืน และการพบปะสังสรรค์ระหว่างเครือญาติด้วยกัน ในวันกำฟ้าจะเริ่มตั้งแต่รุ่งเช้าไปถึงค่ำ ไทพวน มีประชากรอยู่ในจังหวัดน่านประมาณ ๒,๒๙๖ คน (ข้อมูลปี ๒๕๕๐) มีถิ่นฐานเดิมอยู่ที่เมืองพวน แขวงเชียงของ ประเทศลาว มีการอพยพเข้ามาในไทยหลายคราว แต่ปรากฏหลักฐานการอพยพสำคัญๆ ๓ ครั้งได้แก่
- สมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี พ.ศ.๒๓๒๒ โปรดฯให้เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกและเจ้าพระยาสุรสีห์ ยกทัพไปตีลาวและหัวเมืองต่างๆที่ขึ้นต่อลาว
- สมัยพระเจ้านันทเสน ราชบุตรเจ้าสิริบุญสารเจ้าเมืองเวียงจันทน์ได้ส่งชาวพวนและชาวโซ่งมาเป็นบรรณาการ ในพ.ศ.๒๓๓๕ ศึกษาเพิ่มเติม

Share this:

แสดงความคิดเห็น

ข้อคิดเห็นจากเครือข่าย TKP

 
Copyright © 2018 ศูนย์ข้อมูลความรู้ประชาชนจังหวัดน่าน. Designed by OddThemes > Developed by mediathailand